เพราะพนักงานทุกคนคือคนสำคัญ ทั้งในส่วนที่เป็นกลไกหลักที่ต่างต้องทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนองค์กร และในฐานะที่กลุ่มทรู เป็นภาคเอกชนที่ให้บริการโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศ พนักงานทรู จึงเป็นกำลังสำคัญที่จะต้องร่วมดูแลลูกค้า ประชาชนคนไทยในทุกสถานการณ์วิกฤต โดยเฉพาะช่วงวิกฤตโควิด-19 นี้ ระบบสื่อสารจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา จึงจำเป็นที่จะต้องเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นในหมู่พนักงานให้เร็วที่สุด เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในชีวิตของทุกคน จึงรณรงค์ปูพรมให้พนักงานทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนครบ 100% ทั้งผ่านช่องทางต่างๆ ที่ภาครัฐได้จัดเตรียมให้ชาวไทยทุกคน ผ่านระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 ตลอดจนจัดหาซื้อวัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์ม ซึ่งต้องขอขอบคุณราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ที่พิจารณาจัดสรรมาให้บางส่วน ซึ่งได้ดำเนินการฉีดให้แก่พนักงานกลุ่มเสี่ยงสูง ซึ่งประกอบด้วย ทีมช่าง วิศวกรที่จำเป็นต้องลงพื้นที่ปฏิบัติงานติดตั้ง บำรุงรักษาเครือข่าย รวมทั้งพนักงานในช็อปสาขาต่างๆ ที่ให้บริการลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้กับพนักงานและครอบครัว รวมทั้งลดความกังวลของผู้ใช้บริการ ตลอดจนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย ซึ่งพนักงานทรูทุกคน จะมีการลงบันทึกประวัติการฉีดวัคซีนผ่านแอปพลิเคชันในระบบ HR เพื่อแจ้งสถานะการเข้ารับวัคซีนของพนักงานแต่ละคน อีกทั้งทำให้บริษัทมีข้อมูลในการบริหารจัดการวัคซีนให้กับพนักงานได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึงอีกด้วย โดยขณะนี้พนักงานในกลุ่มทรูที่มีสถานะได้รับวัคซีนแล้วมีประมาณกว่า 70% ซึ่งบริษัท จะยังคงเร่งเดินหน้าสั่งซื้อวัคซีนทางเลือกมาเพื่อฉีดวัคซีนแก่พนักงานให้ได้ครบ 100% โดยเร็ว
นอกจากนี้ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 กลุ่มทรู ยังมีมาตรการดูแลพนักงานอย่างต่อเนื่อง อาทิ ปรับเพิ่มการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและอาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด-19ในทุกแผนประกันสุขภาพของพนักงาน เปิดสายด่วนให้คำปรึกษา จัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและการฉีดวัคซีนโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อีกทั้งให้กู้ยืมเงินค่าเล่าเรียนบุตรโดยไม่คิดดอกเบี้ย สนับสนุนการทำงานที่บ้าน โดยใช้เทคโนโลยีช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น พร้อมให้แพ็กเกจเสริมฟรีสำหรับใช้โทรและเน็ตไม่อั้นด้วย ทั้งนี้ ภารกิจการฉีดวัคซีนและมาตรการดูแลพนักงานดังกล่าว ตอกย้ำความเป็นองค์กรที่มีนโยบายและแนวทางส่งเสริมให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยเชื่อว่าพนักงานทุกคนคือครอบครัวของเรา ซึ่งกลุ่มทรู ได้ยึดถือเป็นหลักปฏิบัติมาโดยตลอด จนส่งผลให้ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ ทั้ง “รางวัลนายจ้างดีเด่นประจำประเทศไทย Top Employer Thailand” 3 ปีซ้อน (2019 – 2021) จาก Top Employers Institute ประเทศเนเธอร์แลนด์ และรางวัล “องค์กรดีเด่นที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2020” (Best Companies to Work for in Asia 2020) จาก HR Asia ประเทศมาเลเซีย
#True5Gเคียงคู่สู้โควิด #TrueTogether
#คุณค่าของการมีกันและกัน #TrueMoveH #True5G