ทรูมูฟ เอช ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สนง.กสทช. สนง.ตำรวจแห่งชาติ และผู้ประกอบการโทรคมนาคม ยกระดับการติดตามและกำกับดูแล กรณีมิจฉาชีพส่งข้อความสั้น (SMS) หลอกลวงประชาชน

กรุงเทพฯ 28 ตุลาคม 2564 –กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยคุณทศพล เพ็งส้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และ สำนักงานกสทช. โดยคุณไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. รักษาการเลขาธิการ แถลงข่าว “การยกระดับติดตามและกำกับดูแล กรณีมิจฉาชีพส่งข้อความสั้น (SMS) หลอกลวงประชาชน”

โดยมีผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้ประกอบการโทรคมนาคม ซึ่งทรูมูฟ เอช โดยคุณจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านรัฐกิจสัมพันธ์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เข้าร่วมประชุมหารือเพื่อติดตามและกำกับดูแลกรณีมิจฉาชีพส่งข้อความสั้น SMS หลอกลวงประชาชน ชักชวนเล่นพนันออนไลน์ และลามกอนาจาร


จากการประชุมได้ยกระดับการจัดการปัญหาเพิ่มโดย สำนักงาน กสทช. ได้กำหนดมาตรการเกี่ยวกับเนื้อหาของข้อความและการกำหนดชื่อ Sender name ซึ่งเริ่มจากต้นทางของการส่ง SMS จากผู้ให้บริการเนื้อหา ดังนี้

1. ผู้ให้บริการเนื้อหาต้องมีระบบยืนยันตัวตนของลูกค้าที่มาซื้อ SMS ที่ชัดเจน ตรวจสอบได้ 2. ข้อความใน SMS และชื่อ Sender name ต้องไม่ให้ลูกค้ากำหนดเองได้โดยอิสระ แต่ต้องแจ้งผ่านผู้ให้บริการทราบก่อน 3. การกำหนด Sender name ต้องไม่มีลักษณะเป็นหมายเลขโทรศัพท์ 4. หากชื่อ Sender name  ตรงกับหรือคล้ายกับชื่อบริษัท หน่วยงาน หรือเครื่องหมายการค้า ทางผู้ให้บริการสามารถขอเอกสารจากลูกค้าในการรับรอง หรือการได้รับความยินยอมให้ใช้ชื่อจากเจ้าของบริษัท หน่วยงาน หรือเครื่องหมายทางการค้านั้นๆ ได้ 5. ข้อความไม่ควรมี link เพื่อป้องกันไม่ให้ใช้เป็นเครื่องมืออำนวนความสะดวกต่อการทำความผิด


นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดแนวทางปฏิบัติในการรวบรวมข้อมูล และดำเนินการกรณีพบข้อความที่ผิดกฎหมายที่จะใช้ในการดำเนินการของผู้ให้บริการโทรคมนาคม รวมถึงการลงโทษกับผู้ให้บริการเนื้อหาที่ไม่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา SMS หลอกลวง ทั้งนี้ยังคงขอให้ประชาชนระมัดระวังอย่าหลงเชื่อข้อความจาก SMS โดยง่าย อย่าให้ข้อมูลส่วนตัว เพื่อป้องกันการนำไปก่อความเสียหาย