ซ้ายประธานอาวุโสธนินท์ ขวาเถ้าแก่เหลียง
หากถอยเวลากลับไปของธุรกิจไก่ไข่ในประเทศไทย ถือได้ว่าพื้นที่บริเวณตำบลเทพราช อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทราถือได้ว่าเป็นแหล่งกำเนิดและเติบโตจนกลายเป็นฐานการผลิตในการกระจายผลผลิตใหญ่ของประเทศไทยและย้อนกลับไปร่วมกว่า 60 ปี ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ซีพีได้เริ่มบุกเบิกอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่ไข่สมัยใหม่ โดยมีคู่ค้าที่เป็นผู้ประกอบการสำคัญ ที่ร่วมธุรกิจกันมาอย่างยาวนานก่อเกิดมิตรภาพอันแน่นแฟ้นนั่นคือ ‘เถ้าแก่เหลียง’ เจ้าของ ‘วิศาล ฟาร์ม’ และ ‘กำนันเช็ง หรือกำนันชำนิ’ ที่ท่านประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์ เดินทางทางเรือไปตามลำคองประเวศน์บุรีรมย์ที่เชื่อมต่อจากกรุงเทพสู่แปดริ้ว/ฉะเชิงเทรา เพื่อพบปะพูดคุยกับทั้ง 2 ท่าน เพื่อร่วมกับเครือซีพีบุกเบิกการเลี้ยงไก่ไข่ยุคใหม่จนมาถึงวันนี้ กลายเป็นมิตรภาพและความรู้สึก ผูกพันส่งต่อมาจนถึงปัจจุบันที่เครือซีพีจะมีอายุครบ 100ปี
จากซ้ายไปขวา คนที่ 2 เถ้าแก่เหลียง คนที่ 3 ประธานอาวุโสธนินท์
วิศาล ฟาร์ม
คุณประเสริฐศักดิ์ องค์วัฒนกุล ที่ปรึกษาอาวุโส กลุ่มธุรกิจยานยนต์และอุตสาหกรรมในจีน เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะที่รับไม้ต่อจากท่านประธานอาวุโสในการดูแลคู่ค้าทั้ง 2 มาอย่างยาวนาน ได้มีโอกาสนำทีมงาน wearecp กลับไปเยี่ยมคู่ค้ารุ่นบุกเบิกอีกครั้งท่ามกลางมิตรภาพอันอบอุ่นที่ไม่เคยจางหายไป
คุณประเสริฐศักดิ์ เล่าความหลังครั้งเริ่มบุกเบิกทำธุรกิจกับคู่ค้าไก่ไข่ว่า “ผมเริ่มทำงานปีแรกก็ได้มีโอกาสรู้จักกับเถ่าแก่เหลียง ที่มาส่งไข่ไก่ให้ ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ค่อยพูด และทุกครั้งผมก็จะเป็นผู้คอยดูท่านทุกสัปดาห์ที่ท่านมารับเช็คค่าไข่ ที่บริษัท กรุงเทพค้าสัตว์ จำกัด บางนาตราด กม. 2.5
“ผมเป็นบุคลากรรุ่นที่ 2-3 ของเครือฯ มีโอกาสเข้ามาสัมผัสกับเถ้าแก่เหลียง สิ่งที่ผมเรียนรู้จากท่านคือความอดทน 60 ปีในวงการแบบนี้ นอกจากอดทน อีกคำคือ รู้กตัญญู เครือฯ โดยเฉพาะท่านประธานอาวุโส ท่านมีความจริงใจ รู้จริง การเข้าพบเถ้าแก่เหลียงเมื่อ 60 ปีที่แล้ว มันเหมือนเป็นการแมทช์คู่สมรสที่ดี การเติบโตเกิดจากทั้ง 2 คนร่วมมือกัน สิ่งเหล่านี้รุ่นที่ 2 ในวันนี้กำลังแนะนำรุ่นที่ 3 เป็นการสร้างฐานรากที่สุดยอด ในเครือฯ เรามีลูกค้า หรือเรียกว่าเพื่อนดีกว่า ถือว่าเป็นโชคดีของเรา”
แม้วันที่คุณประเสริฐศักดิ์พาทีมงานไปเยือน “วิศาลฟาร์ม” ที่วันนี้”เถ้าแก่เหลียง”จะถึงแก่กรรมไปแล้ว แต่ก็ได้พบกับทายาทรุ่นที่ 2 และ 3 ของท่าน
คุณเสริมสุข เตชะธนะวัฒน์ บุตรีของเถ้าแก่เหลียง และผู้ดำเนินธุรกิจไก่ไข่รุ่นที่ 2 เล่าถึงภาพความประทับใจครั้งวัยเยาว์ที่ได้พบกับท่านประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์ ว่า “สมัยก่อนท่านจะนำเรือมาเทียบท่าคลองหลังบ้าน มานั่งพูดคุยกับคุณพ่อ (เถ้าแก่เหลียง) อยู่เป็นประจำ และแต่ละครั้งก็ใช้เวลาพูดคุยกันอยู่นาน ท่านให้ความช่วยเหลือฟาร์มของคุณพ่อ แนะนำวิธีการเลี้ยงไก่ไข่ ยามวิกฤตไข้หวัดนกที่กระทรวงสาธารณสุขมีคำสั่งให้ฝังกลบไก่ทุกตัวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ ซีพีก็เข้ามาช่วยเหลือทันที นำไก่ไข่ล็อตใหม่มาลงที่ฟาร์ม นับเป็นฟาร์มแรกๆ ที่มีไก่ไข่เต็ม พร้อมส่งออกไข่ไก่ก่อนคนอื่นในช่วงนั้น”
แม้เวลาผ่านมากว่า 6 ทศวรรษ ความประทับใจนี้ยังตราตรึง ยากจะลืมเลือน คุณเสริมสุขได้พบท่านประธานอาวุโสอีกครั้ง ท่านยังให้ความเมตตาและจดจำบุตรีของ ‘เถ้าแก่เหลียง’ ได้เป็นอย่างดี จวบจนวันนี้วิศาลฟาร์มดำเนินธุรกิจไก่ไข่มาถึงรุ่นหลาน น้องพลอยลูกสาวของคุณเสริมสุขรับหน้าที่ดำเนินธุรกิจต่อ กล่าวว่า “เราโตมากับธุรกิจนี้ตั้งแต่เด็ก เห็นคุณพ่อคุณแม่ทำงานร่วมกับซีพี เป็นครอบครัว ซีพีก็มาดูแลเราตลอดค่ะ”
คุณสุธีร์ เตชะธนะวัฒน์ สามีของคุณเสริมสุข หนึ่งในเถ้าแก่วิศาลฟาร์ม รุ่นที่ 2 กล่าวถึงความประทับใจถึงเครือซีพีว่า “นอกเหนือจากความจริงใจกันและกันกับซีพีที่ผ่านมา 60 ปี อีกเรื่องสำคัญคือเรื่องเทคโนโลยีการเลี้ยงสมัยใหม่ วิศาลฟาร์ม ได้ความรู้วิวัฒนาการสมัยใหม่จากซีพีเต็มที่ ระหว่างที่เราดำเนินการ จะมีตัวแทนจากบริษัทมาให้ความรู้เรื่องเทคโนโลยีและวิชาการ เลี้ยงไก่อย่างไรให้ไข่ออกมาดี มีกำไร ขณะเดียวกันขายอาหาร ให้เทคโนโลยีแล้ว ยังสร้างบุคลากรที่เป็นลูกมือ ผมเป็นเถ้าแก่ ไปดูแลเรื่องสั่งอาหาร ขายไข่ ทำเองทุกอย่างไม่ได้ ต้องมีมือไม้ ทางทีมงานซีพีก็มาช่วยให้บุคลากรของเรามีความสามารถในการดูแลไก่ ดูแลตลาดได้ ถือว่ายิ่งกว่าความผูกพัน เป็นพันธมิตร คู่ค้าที่แน่นหนา”
“จำได้ว่าท่านประธานบอกว่า เราต้องก้าวไปด้วยกัน
ไม่ใช่บริษัทก้าวไปอย่างเดียว ลูกค้าต้องเจริญไปด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย”
ประโยคแห่งความประทับใจที่ท่านประธานอาวุโสได้กล่าวกับวิศาลฟาร์ม
ตั้งแต่คุณพ่อ เถ้าแก่เหลียงยังคงอยู่ในใจของทายาทรุ่นสู่รุ่นไม่มีวันเสื่อมคลาย