องค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) เปิดรายงานด้านพลังงานประจำปี 2023 พร้อมคาดการณ์ว่าพลังงานหมุนเวียนจะกลายเป็นแหล่งพลังงานหลักของโลกภายในปี 2025
องค์การพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency) หรือ IEA คาดการณ์ว่าพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งหมุนเวียน (Renewable Energy) จะกลายเป็นพลังงานไฟฟ้าหลักของโลกภายในปี 2025 พร้อมการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากสัดส่วนร้อยละ 29 ในปี 2022 ไปสู่ระดับร้อยละ 35 ในปี 2025 ในรายงานสภาวการณ์ตลาดพลังงานไฟฟ้าประจำปี 2023 (Electricity Market Report 2023)
รายงานดังกล่าวยังระบุอีกด้วยว่าประเทศจีนจะเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันการเติบโตในอีก 2 ปี ต่อจากนี้ โดยคิดเป็น 45% ของการเติบโตทั่วโลก รองลงมาเป็นการผลิตจากฝั่งสหภาพยุโรป (EU) ที่ไม่รวมสหราชอาณาจักรอีก 15%
การขับเคลื่อนพลังงานหมุนเวียนส่งผลโดยตรงต่อการปล่อยมลภาวะ ในรายงานระบุการเพิ่มขึ้นของการปล่อยมลภาวะจากการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 1.3% ในปี 2022 ซึ่งเกิดจากฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างฉับพลันหลังผ่านพ้นช่วงวิกฤติในการระบาดของโรคโควิด-19
อย่างไรก็ตาม การใช้ก๊าซธรรมชาติเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าในภูมิภาคตะวันออกกลางจะเพิ่มขึ้นในอนาคต สวนทางกับกระแสการพัฒนาอย่างยั่งยืน และในขณะเดียวกัน การพัฒนาเศรษฐกิจในจีนยังคงทำให้การผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินยังคงเป็นรากฐานสำคัญของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดในประเทศต่อไปอีกสักระยะ แต่ภาพรวมทั้งโลกแล้วทั้งถ่านหินและก๊าซธรรมชาติจะถูกใช้งานน้อยลง และแทนที่ด้วยการผลิตไฟฟ้าจากนิวเคลียร์ในอนาคต
นอกจากจีนแล้ว ทั้งสหรัฐอเมริกาและอินเดียต่างก็มีการเติบโตทางเศรษฐกิจหลังโรคระบาดด้วยเช่นกัน ดังนั้นข้อมูลจึงพบว่าความต้องการใช้งานไฟฟ้าภายในประเทศเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 และ 8.4 ตามลำดับ ในปี 2022 ที่ผ่านมา และจะพุ่งขึ้นสูงที่สุดในช่วงฤดูร้อนจากสภาพอากาศทั้งในอินเดียและภูมิภาคเอเชีย
ที่มาข้อมูล Electrek